อลิสซอน เบ็คเกอร์ up ชี้ แม้ขาด ฟาน ไดจ์ค แต่แนวรับหงษ์แดงยังไงก็แข็งแกร่ง

     อลิสซอน เบ็คเกอร์ up นายด่านลิเวอร์พูล ยืนยันว่า แม้จะขาด เวอร์กิล ฟาน ไดจ์ค ลงสนามพบกับ บาเยิร์น มิวนิค แต่ขอให้เชื่อเถอะว่าผู้เล่นแนวรับรายอื่น ๆ ก็สามารถเล่นทดแทนกันได้ เพราะว่าทุกคนเคยซ้อมด้วยกันมาหมดแล้ว และก็มีความเข้าใจกันดี 👍👍👋

     อลิสซอน เบ็คเกอร์ up ลิเวอร์พูล จะเปิดแอนฟิลด์ต้อนรับ บาเยิร์น มิวนิค ในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบน็อกเอาต์นัดแรก ซึ่งเกมนี้ หงส์แดง มีปัญหาที่แนวรับต่างบาดเจ็บ และติดโทษแบน ซึ่งจะเหลือเพียงแค่ โจเอล มาติป เพียงรายเดียวเท่านั้นที่เป็นเซ็นเตอร์อาชีพลงสนามในเกมนี้

     อลิสซอน เบ็คเกอร์ กล่าวว่า "ผมบอกได้เลยว่ากองหลังของเราทุกคนต่างเคยเล่นด้วยกันมาหมดแล้ว แม้ว่าคนหนึ่งจะหายไปแล้วมีอีกคนเข้ามาเล่นแทน แต่เราจะไม่รู้สึกว่ามีใครหายไปนะ เพราะว่าเราต่างคุ้นเคยกันดี"

     "แน่นอนว่าเมื่อแนวรับภายในทีมต่างมีความเข้าใจให้กันดี มันถือเป็นเรื่องที่ดีมาก และสำคัญนะเราจะสื่อสารกันได้ดีพร้อมกับมั่นใจ และแม้เกมนี้เราจะขาดใครไป แต่เชื่อเถอะว่าคนที่มาลงเล่นแทนก็ดีไม่แพ้กันหรอก"

     ทั้งนี้ เวอร์กิล ฟาน ไดจ์ค ติดโทษแบนมาจากจำนวนใบเหลืองในรอบที่ผ่านมา ขณะที่ โจ โกเมซ เจ็บยาว และเดยัน ลอฟเรน ยังไม่ฟิต ซึ่งต้องลุ้นว่าลงเล่นได้หรือไม่ แต่หากไม่ได้ ฟาบินโญ่ กับ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน จะเป็นอีก 2 ทางเลือก

👉👉👉อยากแทงบอลเว็บไหนดี แทงบอลสเต็ป เครดิต⚽⚽⚽👈👈👈

4 การเสริมมุขที่ "น้าเอ็ด" ต้องดึงร่วมทัพผีแดงซัมเมอร์นี้

      ผลงานที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พ่ายแพ้แบบหมดรูปต่อ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรก ทำให้หลายคนตาสว่างแล้วว่า "ปีศาจแดง" จำเป็นต้องมีการเสริมขุมกำลังให้แข็งแกร่งยิ่งกว่านี้ในช่วงซัมเมอร์หากจะตั้งเป้านำความยิ่งใหญ่กลับคืนมาทั้งในอังกฤษ และยุโรป

    แมนฯ ยูไนเต็ด สุ่มเสี่ยงต่อการตกรอบแชมเปี้ยนส์ ลีก จากการแพ้คาโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด 0-2 นั่นทำให้ผลงานไร้พ่ายนับตั้งแต่ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา เข้ามากุมบังเหียน จบสิ้นลงที่เกมที่ 12 อย่างไรก็ตาม "ผีแดง" ยังมีโอกาสที่จะแก้มือในเกมเยือนกรุงปารีส วันที่ 6 มี.ค.นี้ แต่ค่อนข้างจะริบหรี่เหลือเกิน

    อย่างไรก็ตาม โซลชา ยังมีลุ้นในการนำทีมคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ รวมทั้งติดท็อปโฟร์ ซึ่งน่าจะทำให้บอร์ดบริหาร "เร้ด เดวิลส์" พึ่งพอใจกับผลงานของเขา และมอบสัญญากุมบังเหียน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แบบถาวรให้กับ ผู้จัดการทีมชาวนอร์เวย์

    ถ้าหาก โซลชา ได้ทำหน้าที่คุมทัพ "ปีศาจแดง" ถาวร แน่นอนว่าเขาต้องเตรียมความพร้อมในการเสริมทัพเพื่อให้ทีมมีขุมกำลังที่แข็งแกร่งที่สุดเพื่อรับศึกหนักในฤดูกาลใหม่ ฉะนั้น เอ็ด วู้ดเวิร์ด รองประธานบริหาร ย่อมรู้เรื่องนี้เป็นอย่างดี และก็พร้อมที่จะสนับสนุนเขาในการคัดสรรนักเตะที่เหมาะสมเพื่อดึงมาร่วมทีม

    นักเตะที่แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องการมากที่สุดก็คือปราการหลังตัวกลาง เพราะหากดูจากผลงานในเกมล่าสุด คู่หูเกมรับอย่าง เอริก ไบยี่ กับ วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ คงทำให้ ดาบิด เด เคอา นายด่านชาวสแปนิช มีงานชุกตลอด 90 นาที แถมสาวก "เร้ด อาร์มี่" ต้องใจหายใจคว่ำว่าคู่นี้คนไหนจะเล่นพลาดก่อนกัน

    นอกจากนี้ตำแหน่งฟูลแบ็กก็เป็นอีกจุดที่ทีมจำเป็นต้องเสริมทัพ เช่นเดียวกับมิดฟิลด์ฝั่งขวา  แน่นอนว่าตอนนี้เป้าหมายในตำแหน่งเซนเตอร์แบ็กที่ แมนฯ ยูฯ เล็งเอาไว้ก็คือ คาลิดู คูลิบาลี่ แนวรับจอมแกร่งจากนาโปลี ซึ่งเป็นผู้เล่นที่ "ผีแดง" ต้องการมากๆ

    อย่างไรก็ตามปัญหาเดียวที่ทำให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังไม่สามารถกระชากตัว กองหลังชาวเซเนกัล มาอยู่ในโรงละครแห่งความวันก็คือค่าตัวที่ นาโปลี ตั้งเอาไว้สูงถึง 90 ล้านปอนด์ (ราว 3,690 ล้านบาท) แต่หากมองจากความแข็งแกร่งและความนิ่ง ต้องบอกว่านี่คือกองหลังที่เหมาะสมกับผู้เล่นที่แมนฯ ยูไนเต็ด มองหา

    ส่วนอีกหนึ่งแนวรับที่ "ผีแดง" เล็งดึงตัวมาให้ได้ก็คือ ลูคัส เอร์นานเดซ แข้งสารพัดประโยชน์จาก "ตราหมี" แอตเลติโก มาดริด โดยนักเตะรายนี้มีศักยภาพที่สามารถยืนตำแหน่งกองหลังตัวกลาง หรือโยกไปยืนในตำแหน่งแบ็กซ้ายได้เช่นกัน

    ยังไม่หมดแค่นั้นสำหรับผู้เล่นทางฝั่งขวาที่มีความหลากหลายซึ่ง "ผีแดง" ปรารถนาอยากได้เช่นกันนั่นก็คือ  นิโคล่า มิเลนโควิช กองหลังจาก "ม่วงมหากาฬ" ฟิออเรนติน่า ซึ่งนักเตะสามารถเล่นตำแหน่งเซนเตอร์แบ็ก และขยับไปยืนแบ็กขวาก็ได้ด้วย แต่ค่าตัวประมาณ 50 ล้านยูโร (ราว 2,000 ล้านบาท)

    สำหรับคนสุดท้ายที่ วู้ดเวิร์ด ต้องใช้วาทะศิลป์ในการหว่านล้อมเพื่อดึงตัวมาร่วมทัพนั่นก็คือ ดั๊กลาส คอสต้า ปีกชาวบราซิเลียน ของ "ม้าลาย" ยูเวนตุส โดยนี่เป็นหนึ่งในแข้งที่ โชเซ่ มูรินโญ่ อยากได้มาร่วมทีมตอนที่ยังคุม "ผีแดง" และแม้ว่าเขาจะโดนปลดไปแล้ว สโมสรก็ยังอยากได้อยู่เหมือนเดิม ที่สำคัญมีความเป็นไปได้ที่ แข้งแซมบ้าจะโบกมือลา ยูเว่ ในช่วงซัมเมอร์นี้เช่นกัน

    แม้ในตอนนี้ฤดูกาลปัจจุบันยังไม่จบ แต่การที่ วู้ดเวิร์ด และบอร์ดบริหารเล็งที่จะดึง 4 นักเตะรายนี้มาร่วมทัพ ถือเป็นนิมิตหมายที่ดีที่บอกเป็นนัยๆ ว่า โซลชา น่าจะได้นั่งกุมเบียนถาวร และจะมีขุมกำลังที่แข็งแกร่งเพื่อให้พร้อมกับความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ในซีซั่น 2019-20

แรมซี่ย์แซงเบล!เผย 10 นักเตะสหราชอาณาจักรรายได้มากที่สุด

   สื่อกีฬาชั้นนำ เปิดเผยนักเตะในสหราชอาณาจักรที่มีรายได้มากที่สุด โดยตอนนี้กลายเป็นของ อารอน แรมซี่ย์ ที่มีรายงานว่าเซ็นสัญญาล่วงหน้าย้ายไปเล่นกับ ยูเวนตุส แล้ว และรับทรัพย์ต่อสัปดาห์ 400,000 ปอนด์ แซงหน้า แกเร็ธ เบล ที่หล่นมาอยู่อันดับ 2 ด้วยรายได้ 350,000 ปอนด์ ต่อสัปดาห์

    ยูโรสปอร์ต สื่อกีฬาชื่อดังระดับโลก เปิดเผย 10 อันดับนักเตะชาวสหราชอาณาจักรที่ได้ค่าเหนื่อยมากสุด โดยอันดับ 1 ตอนนี้ตกเป็นของ อารอน แรมซี่ย์ กองกลางทีมชาติเวลส์ ที่มีรายงานว่าจะได้รับค่าเหนื่อยจำนวน 400,000 ปอนด์  (ราว 16.4 ล้านบาท) ต่อสัปดาห์ จากการย้ายไปเล่นให้ ยูเวนตุส ในฤดูกาลหน้า   

    ดาวเตะวัย 28 ปี จะหมดสัญญากับ อาร์เซน่อล ในวันที่ 30 มิถุนายนนี้ เตรียมที่จะจบช่วงเวลา 11 ปีกับ "เดอะ กันเนอร์ส" เมื่อนักเตะตกลงใจเซ็นสัญญา 4 ปีเพื่อไปเล่นให้กับทัพ "ม้าลาย" แบบไม่มีค่าตัว ด้วยเหตุนี้ทำให้ทัพ "เบียงโคเนรี่" กล้าที่จะให้เงินค่าเหนื่อยจำนวนมหาศาล โดยมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ในลีกอิตาลี รองจาก คริสเตียโน่ โรนัลโด้ สตาร์ชาวโปรตุเกส ที่ได้รับ 500,000 ปอนด์ (ราว 20.5 ล้านบาท) ต่อสัปดาห์

    ขณะที่ แกเร็ธ เบล ปีกจอมลีลาเพื่อนร่วมชาติของ แรมซี่ย์ ซึ่งเป็นเจ้าของนักเตะที่ได้รับค่าเหนื่อยแพงสุดในสหราชอาณาจักร ตอนนี้ต้องร่วงไปอยู่อันดับ 2 ด้วยรายได้ 350,000 ปอนด์ (ราว 14.35 ล้านบาท) ส่วน แฮร์รี่ เคน กองหน้าทีมชาติอังกฤษจาก สเปอร์ส รั้งอันดับ 5 ด้วยรายรับ 200,000 ปอนด์ (ราว 8.2 ล้านบาท) ต่อสัปดาห์พร้อมกับโบนัส

อันดับนักเตะชาวสหราชอาณาจักรที่มีรายได้มากที่สุดหาก แรมซี่ย์ ย้ายไปเล่นยูเวนตุส
1. อารอน แรมซี่ย์ (ยูเวนตุส)         400,000 ปอนด์ (ราว 16.4 ล้านบาท)
2. แกเร็ธ เบล (เรอัล มาดริด)          350,000 ปอนด์ (ราว 14.35 ล้านบาท)
3. เวย์น รูนี่ย์ (ดีซี ยูไนเต็ด)         300,000 ปอนด์ (ราว 12.30 ล้านบาท)
- ราฮีม สเตอร์ลิง (แมนฯ ซิตี้)        300,000 ปอนด์ (ราว 12.30 ล้านบาท)
5. แฮร์รี่ เคน (สเปอร์ส)            200,000 ปอนด์ (ราว 8.2 ล้านบาท) + โบนัส
6. อเล็กซ์ อ็อกซ์เลค-แชมเบอร์เลน (ลิเวอร์พูล) 120,000 ปอนด์ (ราว 4.92 ล้านบาท)
- เจมส์ มิลเนอร์ (ลิเวอร์พูล)         120,000 ปอนด์ (ราว 4.92 ล้านบาท)
- แดเนี่ยล สเตอริดจ์ (ลิเวอร์พูล)        120,000 ปอนด์ (ราว 4.92 ล้านบาท)           
9. จอห์น สโตนส์ (แมนฯ ซิตี้)         100,000 ปอนด์ (ราว 4.1 ล้านบาท)
- ไคล์ วอล์คเกอร์ (แมนฯ ซิตี้)        100,000 ปอนด์ (ราว 4.1 ล้านบาท)
- จอร์แดน เฮนเดอร์สัน (ลิเวอร์พูล)         100,000 ปอนด์ (ราว 4.1 ล้านบาท)
- เจสซี่ ลินการ์ด (แมนฯ ยูฯ)        100,000 ปอนด์ (ราว 4.1 ล้านบาท)

ตำนานสวดยับ ลัลลาน่า-เกอิต้า ฝีเท้ายังไม่ถึงขั้นเล่นให้ ลิเวอร์พูล

จอห์น อัลดริดจ์ หัวหอกระดับตำนานของ ลิเวอร์พูล ออกมาจวก อดัม ลัลลาน่า และ นาบี เกอิต้า ว่าไม่เหมาะสมที่จะเป็นนักเตะ หงส์แดง สำหรับการไล่ล่าแชมป์ พรีเมียร์ลีก จากรายงานของ express.co.uk เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2562

ลิเวอร์พูล ทำได้เพียงบุกไปเสมอ เวสต์แฮม 1-1 ทำให้สถานการณ์ลุ้นแชมป์กลับมาเข้มข้นอีกครั้ง ทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ สะดุด 2 เกมติดต่อกันทำให้ แมนซิตี้ ไล่ทำแต้มขึ้นไปเท่า แต่ประตูได้-เสียดีกว่า "เรือใบสีฟ้า" จึงแซงขึ้นเป็นอันดับ 1 ของตารางชั่วคราว โดยที่แข่งมากกว่า 1 นัด

ซึ่งทาง จอห์น อัลดริดจ์ มองว่า ลิเวอร์พูล ชุดนี้ยังมีนักเตะที่ไม่ดีพอที่จะช่วยทีมลุ้นแชมป์ โดยเฉพาะ อดัม ลัลลาน่า และ นาบี เกอิต้า "อดัม ลัลลาน่า และ นาบี เกอิต้า จะลงเล่นร่วมกันในแดนกลางไม่ได้อีกเป็นอันขาด เนื่องจากพวกเขาไม่ใช่นักเตะประเภทที่สามารถช่วยทีมลุ้นแชมป์ได้"

"ตอน ลัลลาน่า ย้ายมาแรก ๆ ผมเองก็ไม่ได้ปลื้มเท่าไรนะ และในขณะที่เขากำลังพิสูจน์ให้ผมเห็นว่าผมคิดผิด เขาก็ดันมาถูกปัญหาอาการบาดเจ็บเล่นงาน และดูเหมือนว่าตอนนี้เขากำลังดิ้นรนเพื่อกลับไปอยู่ระดับที่ดีอีกครั้งหลังจากใช้เวลาไปนานกับการรักษาตัว"

"สำหรับ เกอิต้า เขายังไม่ได้พิสูจน์ตัวเองกับ ลิเวอร์พูล เลย และล้มเหลวกับฟอร์มการเล่นที่เราคาดหวังจากเขา การทำทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ นั้นพยายามทำให้เขาเล่นด้วยความรวดเร็ว และยังต้องรอดูว่าเขาจะดีพอที่จะเล่นในทีมนี้หรือไม่ ?"